ข่าวดีชาวนาทั่วประเทศ ประกันรายได้ข้าวเงินช่วยชาวนา ค่าเก็บเกี่ยวปี64ชาวนาฟังด่วนเพิ่มพื้นที่รับ5พัน | ข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับ โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64

[penci_button link=”#” icon=”” icon_position=”left” align=”center” text_color=”#000000″]ชมวิดีโอด้านล่าง[/penci_button]

Table of Contents

ข่าวดีชาวนาทั่วประเทศ ประกันรายได้ข้าวเงินช่วยชาวนา ค่าเก็บเกี่ยวปี64ชาวนาฟังด่วนเพิ่มพื้นที่รับ5พัน


ข่าวดีชาวนาทั่วประเทศ ประกันรายได้ข้าว เงินช่วยชาวนา ค่าเก็บเกี่ยวปีการผลิต64ชาวนาฟังด่วน เพิ่มพื้นที่รับเงิน5,000บาทประกันราคาข้าวประกันรายได้เกษตรกร
สมัครเป็นสมาชิกของช่องนี้เพื่อเข้าถึงสิทธิพิเศษต่างๆ
https://www.youtube.com/channel/UCOtVpkjWMdmC9WO14ih64dg/join
ที่มาข่าว https://www.thansettakij.com/economy/490116
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/952410
นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายก สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ คุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะมีการหารือเกี่ยวราคาข้าว ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว รวมทั้ง ประกันราคาข้าว ด้วย ซึ่งทางสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย จะมีประเด็นในการเสนอ 7 เรื่องด้วยกัน

1.เรื่อง การกำหนดราคา ชนิดข้าว และจำนวนไร่ โครงการประกันรายได้ และค่าบริหารจัดการ ค่าเก็บเกี่ยว จึงขอเสนอ โครงการประกันรายได้ ปี2564/65 ดังนี้
ปีนี้จะเพิ่มข้าวพื้นนุ่ม ได้แก่ กข79,กข43,กข87 ราคาประกัน 10,500 บาท/ตัน จำนวน 30 ไร่ ส่วน โครงการสินเชื่อชะลอการขาย หรือ “จำนำยุ้งฉาง” ให้ตามหลักการเดิม โดยมีค่าเก็บฝากตันละ1,500 บาท ระยะเวลาหนึ่งเดือน พร้อมชดเชยค่าเก็บเกี่ยว ไร่ละ1,000 จ่ายครั้งเดียว
2. เรื่องการดูแลพื้นที่เพาะปลูกพิเศษ (พื้นที่เพาะปลูกพิเศษที่หมายถึง พื้นที่ที่มีการเพาะปลูกชนิดข้าวที่มีความสำคัญในตลาด เช่น ข้าวหอมมะลิ ข้าวพื้นนุ่มเพื่อบริโภคภายในประเทศ และส่งออก) ที่มีการรวมกลุ่มแบบเข้มแข็ง โดยภาครัฐเข้ามามีส่วนร่วม หรือส่งเสริมสนับสนุน ร่วมกับองค์กรชาวนา ในการเชื่อมโยงธุรกิจที่เกี่ยวข้องในขั้นตอนการผลิต เพื่อเพิ่มวิธีการลดต้นทุน

เช่น 1.กลุ่มธุรกิจเตรียมดิน ,2.กลุ่มธุรกิจการบำรุงผลผลิต, 3. กลุ่มธุรกิจการเก็บเกี่ยวผลผลิต, 4. กลุ่มธุรกิจบริหารจัดการฟางข้าวและตอซัง เป็นต้นเพื่อเป็นต้นแบบ หรือนำร่องโดยใช้กลุ่มองค์กรชาวนาเข้ามาดำเนินการร่วมกับภาครัฐทั้ง กระทรวงเกษตร และกระทราวงพาณิชย์

3.เรื่องการลดต้นทุน ในเรื่องวัสดุการเกษตร ราคาค่าปุ๋ย ค่ายา และอื่นๆที่ เกี่ยวข้องกับพื้นฐานการเพาะปลูก ให้ชาวนาเข้าถึงได้ในราคาพิเศษ ถูกกว่าท้องตลาด หรือควรมีโครงการคนละครึ่ง

4. ในเรื่องอุปกรณ์เครื่องมือ เช่นรถดำนา รถหยดข้าว ให้ชาวนาที่ซื้อผ่อนส่งระยะยาวโดยฟรีดอกเบี้ย และต้องมีคุณภาพดีราคาย่อมเยา หรือควรมีโครงการคนละครึ่งสำหรับช่วยชาวนาในการซื้อเครื่องจักรการเกษตร เป็นต้น

5.ปีนี้ คาดว่าผลผลิตดี โดยเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ ภาคอีสาน ในเรื่องข้าวหอมมะลิที่ราคาตกต่ำ รวมถึงข้าวชนิดอื่นๆที่เพาะปลูกในฤดูกาล ปี2564/65 ควรเร่งหาตลาดรองรับ และแก้ไขปัญหาการขนส่งสินค้าไปยังต่างประเทศ มิฉะนั้นจะเกิดปัญหากับผลผลิตที่กำลังจะออกสู่ตลาด หรือภาครัฐอาจจะต้องหาทางช่วยชดเชยค่าขนส่งให้ผู้ส่งออกข้าว บ้างบางส่วนที่ส่งออกไปยังต่างประเทศ

6.เรื่อง เมล็ดพันธ์ุข้าว ที่ตอบโจทย์ ผลผลิตสูง(1,200กิโลต่อไร ขึ้นไป)อายุ110120วัน ต้นเตี้ยตอบโจทย์ตลาด โดยภาครัฐควรที่สนับสนุน จัดหาให้ชาวนาฟรี หรือในราคาพิเศษ

7.ขอให้ภาครัฐ เร่งสนับสนุนการฉีดวัคซีนให้ผู้ที่อยู่ในห่วงโซ่การค้าข้าวตั้งแต่ชาวนา โรงสี ผู้ส่งออก และผู้ค้าข้าวภายในประเทศ ตลอดจนพนักงานขับรถขนส่งและผู้ขนถ่ายสินค้า และในส่วนประเด็นรายละเอียดอื่นๆถ้ามี ขอนำเสนอในที่ประชุม วันที่ 4 สิงหาคม นี้ อย่างไรก็ตามขอให้ชาวนาทั้งประเทศรอฟังข่าวดี

อย่างไรก็ดี เกษตรกรผู้ปลูกข้าว หากมติ ครม. เห็นชอบแล้ว เดินหน้าประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวระยะ3 หรือ ปี3 ก็สามารถตรวจสอบสถานะการจ่ายเงินรายได้ข้าวด้วยตัวเอง ดังนี้คลิกเข้าไปที่ลิงก์ https://chongkho.inbaac.com/ หรือ คลิกที่นี่

เมื่อกดเข้าไปยังหน้าแรกของเว็บไซต์ดังกล่าว จะมีช่องให้กรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก

เมื่อใส่ครบกดค้นหา

ข่าวดีชาวนาทั่วประเทศ ประกันรายได้ข้าวเงินช่วยชาวนา ค่าเก็บเกี่ยวปี64ชาวนาฟังด่วนเพิ่มพื้นที่รับ5พัน

(เตรียมรับเงินรอบแรก..เย้ๆๆๆ)โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี 2563/64


(เตรียมรับเงินรอบแรก..เย้ๆๆๆ)โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี 2563/64
ประกาศคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว เรื่องกำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง และการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 รอบที่ 1 (งวดที่ 1) ระบุวันที่คาดจะเก็บเกี่ยวถึงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2563 สำหรับข้าวเปลือกชนิดต่างๆ ณ ความชื้นไม่เกิน 15% ดังนี้

ราคาประกัน 1.ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 12,088.83 บาท

2.ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 11.862.55 บาท

3.ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 8,777.64 บาท

4.ข้าวเปลือกหอมปทุม ตันละ 9,933.04 บาท

5.ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 9,935.66 บาท

ราคาชดเชย 1.ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 2,911.17 บาท

2.ข้าวเปลือกมะลินอกพื้นที่ ตันละ 2,137.45 บาท

3.ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 1,222.36 บาท

4.ข้าวเปลือกหอมปทุม ตันละ 1,066.96 บาท

5.ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 2,084.34 บาท

อ้างอิง : กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์

(เตรียมรับเงินรอบแรก..เย้ๆๆๆ)โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี 2563/64

ตรวจสอบ"เงินประกันรายได้เกษตรกร" และเงินส่วนต่าง"ประกันราคาข้าว" [ งวดที่ 21 ] ปี 2563/64 จาก ธกส.


ตรวจสอบเงินประกันรายได้เกษตร จ่ายส่วนต่าง “ประกันราคาข้าว” รอบที่ 1 (งวดที่ 21) เช็คที่นี่!

ตามที่ รัฐบาล ได้อนุมัติ โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 รอบที่ 1 ลงวันที่ 9 พฤศจิกายน 2563 โดยเกษตรที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรซึ่งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะโอนเงินให้กับธนาคารแต่ละสาขา วันที่ 16 พ.ย.2563 งวดแรกนั้น

กรมการค้าภายใน ออกประกาศคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว เรื่องกำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง และการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 รอบที่ 1 (งวดที่ 21) ความว่า

มติที่ประชุม ครั้งที่ 13/2564 เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2564 รอบที่ 1 (งวดที่ 21) ระบุวันที่คาดจะเก็บเกี่ยวถึงวันที่ 2228 มีนาคม 2564 สำหรับข้าวเปลือกชนิดต่างๆ ณ ความชื้นไม่เกิน 15% ดังนี้

ราคาประกัน

1.ข้าวเปลือกหอมมะลิ สิ้นสุดฤดูการเก็บเกี่ยว

2.ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 11,813.33 บาท

3.ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 9,781.50 บาท

4.ข้าวเปลือกหอมปทุม ตันละ 11,314.42 บาท

5.ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 11,570.54 บาท

สำหรับ การชดเชยส่วนต่างระหว่างราคาประกันรายได้กับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง มีอัตราส่วนต่างที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรใช้ในการจ่ายให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว สำหรับการจ่ายเงินงวดที่ 21 ในวันที่ 29 มีนาคม 2564 ดังนี้

ราคาชดเชย

1.ข้าวเปลือกหอมมะลิ สิ้นสุดฤดูการเก็บเกี่ยว

2.ข้าวเปลือกมะลินอกพื้นที่ ตันละ 2,186.67 บาท

3.ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 218.50 บาท

4.ข้าวเปลือกหอมปทุม ราคาสูงกว่าเป้าหมาย

5.ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 429.46 บาท

ลงชื่อนายวัฒนศักย์ เสือเอื่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ประธานอนุกรรมการกำกับดูแล และกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิง โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว

ขอบคุณที่รับชม “@ต้มยํากุ้งTV ” ค่ะ 😘😘💘💓💞

ที่มาของข่าว ขอบคุณ”กรุงเทพธุรกิจ”

ตรวจสอบ"เงินประกันรายได้เกษตรกร" และเงินส่วนต่าง"ประกันราคาข้าว" [ งวดที่ 21 ] ปี 2563/64 จาก ธกส.

ตรวจสอบ"เงินประกันรายได้เกษตรกร" และเงินส่วนต่าง"ประกันราคาข้าว" [ งวดที่ 19 ] ปี 2563/64 จาก ธกส.


เช็คเงินประกันรายได้เกษตร จ่ายส่วนต่าง ‘ประกันราคาข้าว’ รอบที่ 1 (งวดที่ 19)

อัพเดทความคืบหน้า โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 รอบที่ 1 จ่ายส่วนต่าง “ประกันราคาข้าว” โดยเกษตรที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะโอนเงินให้กับธนาคารแต่ละสาขา วันที่ 16 พ.ย.2563 งวดแรกนั้น

กรมการค้าภายใน  ออกประกาศคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว เรื่องกำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง และการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 รอบที่ 1 (งวดที่ 19) ความว่า

มติที่ประชุม ครั้งที่ 11/2564  เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2564 จ่ายส่วนต่าง “ประกันราคาข้าว” รอบที่ 1 (งวดที่ 19) ระบุวันที่คาดจะเก็บเกี่ยวถึงวันที่ 814 มีนาคม 2564 สำหรับข้าวเปลือกชนิดต่างๆ ณ ความชื้นไม่เกิน 15% ดังนี้

ราคาประกัน   

1.ข้าวเปลือกหอมมะลิ                   สิ้นสุดฤดูการเก็บเกี่ยว

2.ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่        ตันละ  11,812.13 บาท

3.ข้าวเปลือกเจ้า                         ตันละ   9,721.59 บาท

4.ข้าวเปลือกหอมปทุม                  ตันละ   10,983.02 บาท

5.ข้าวเปลือกเหนียว                     ตันละ   11,366.23 บาท

สำหรับ การชดชยส่วนต่างระหว่างราคาประกันรายได้กับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง มีอัตราส่วนต่างที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรใช้ในการจ่ายให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว สำหรับการจ่ายเงินงวดที่ 19 ในวันที่ 15 มีนาคม 2564 ดังนี้

ราคาชดเชย 

1.ข้าวเปลือกหอมมะลิ                        สิ้นสุดฤดูการเก็บเกี่ยว

2.ข้าวเปลือกมะลินอกพื้นที่                 ตันละ  2,187.87 บาท

3.ข้าวเปลือกเจ้า                               ตันละ  278.41 บาท

4.ข้าวเปลือกหอมปทุม                      ตันละ  16.98 บาท

5.ข้าวเปลือกเหนียว                          ตันละ  633.77 บาท

ขอบคุณที่รับชม “@ต้มยํากุ้งTV ” ค่ะ 😊😊😉😉💖💓💗💞

ที่มาของข่าว ขอบคุณ”กรุงเทพธุรกิจ”

ตรวจสอบ"เงินประกันรายได้เกษตรกร" และเงินส่วนต่าง"ประกันราคาข้าว" [ งวดที่ 19 ] ปี 2563/64 จาก ธกส.

แจ้งข่าวดีชาวนาทั่วประเทศมาแล้วประกันรายได้ข้าวปี3 จุรินทร์คอนเฟิร์ม ล่าสุดเงินชาวนาประกันราคาข้าว


แจ้งข่าวดีชาวนาทั่วประเทศมาแล้วประกันรายได้ข้าวปี3 จุรินทร์คอนเฟิร์ม ล่าสุดเงินช่วยชาวนาประกันราคาข้าวประกันรายได้เกษตรกร
สมัครเป็นสมาชิกของช่องนี้เพื่อเข้าถึงสิทธิพิเศษต่างๆ
https://www.youtube.com/channel/UCOtVpkjWMdmC9WO14ih64dg/join
ที่มาข่าว https://www.thansettakij.com/economy/490700
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการตลาด ครั้งที่ 1/2564 ผ่านระบบ Zoom ร่วมกับภาคเอกชนอย่าง สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่า ที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบเบื้องต้นในการเดินหน้านโยบายประกันรายได้สินค้าข้าว ซึ่งถือเป็นการนับหนึ่งโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 3 โดยใช้หลักเกณฑ์เดียวกันกับโครงการปี 2
และจะมีการนำเสนอขอความเห็นชอบต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานอีกครั้งหนึ่ง ก่อนนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป
โดยเกษตรกรที่จะเข้าร่วมโครงการ สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2564 ถึงวันที่ 31 ต.ค.2564 และภาคใต้ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย.2564 ถึงวันที่ 28 ก.พ.2565 และการจ่ายเงินส่วนต่างจะเริ่มต้นตั้งแต่เดือนต.ค.256428 ก.พ.2565 ส่วนภาคใต้จะเริ่มจ่ายเงินส่วนต่างตั้งแต่เดือนมี.ค.พ.ค.2565
สำหรับมาตรการคู่ขนานที่จะเข้ามาช่วยเสริมเพื่อช่วยเกษตรกรผู้ปลูกข้าวมี 3 มาตรการ ประกอบด้วย1.การสนับสนุนให้เกษตรกรชะลอการขายในช่วงที่ข้าวออกสู่ตลาดมาก เพื่อป้องกันไม่ให้ข้าวราคาตกจนเกินไป โดยเกษตรกรที่ชะลอขายข้าวจะได้รับเงินช่วยเหลือตันละ 1,500 บาท 2.ช่วยเหลือดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับสหกรณ์หรือสีโรงสีที่เก็บสต๊อกข้าวและไม่ปล่อยออกสู่ตลาด ชดเชยดอกเบี้ย 3% และ 3.เร่งรัดส่งเสริมการส่งออกข้าว เพื่อระบายข้าวในประเทศ เพราะฤดูการผลิตหน้าจะมีข้าวออกสู่ตลาดมากกว่าปีที่ผ่านมาถึง 26 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 5% จึงต้องมีมาตรการช่วยเหลือให้มีการส่งออกข้าวโดยช่วยดอกเบี้ย 3% เป็นเวลา 6 เดือน ในเดือนต.ค.2564 ถึงมี.ค.2565

ส่วนผลการดำเนินโครงการปี 2 มีการจ่ายเงินส่วนต่างสูงสุดสำหรับข้าว 5 ชนิดดังนี้ ข้าวหอมมะลิจ่ายเงินชดเชยสูงสุด 42,830 บาทต่อครัวเรือน ข้าวหอมนอกพื้นที่ จ่ายสูงสุด 41,680 บาทต่อครัวเรือน ข้าวเปลือกเจ้า จ่ายสูงสุด 36,670 บาทต่อครัวเรือน ข้าวหอมปทุมธานี จ่ายสูงสุด 26,674 บาทต่อครัวเรือน และข้าวเปลือกเหนียว จ่ายสูงสุด 33,350 บาทต่อครัวเรือน
นอกจากนี้ ยังได้เร่งรัดให้กรมการค้าต่างประเทศ เร่งเจรจาขายข้าวในรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) กับจีน ซึ่งยังมีความตกลงซื้อขายข้าวค้างการซื้ออยู่ 280,000 ตัน โดยขอให้เจรจากับจีนเพื่อให้ซื้อข้าวครบตามที่ได้ตกลงไว้โดยเร็วที่สุด ถ้าเป็นไปได้ช่วงเวลานี้ อยากขอให้จีนช่วยซื้อข้าวหอมมะลิเพิ่มเติม เพราะราคาข้าวหอมมะลิของไทยสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก โดยก่อนหน้านี้ ที่เซ็นสัญญากับจีนไว้ 20,000 ตัน ได้มีการส่งมอบเรียบร้อยแล้ว
ด้านนายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ในขณะที่การแข่งขันในตลาดนั้นในครึ่งปีหลังเชื่อว่ายังสามารถแข่งขันได้ เนื่องจากราคาข้าวไทยใกล้เคียงกับข้าวเวียดนาม อินเดีย โดยข้าวขาว5% ของไทยราคาอยู่ที่ 388 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ข้าวของเวียดยามอยู่ที่390ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน และข้าวอินเดียราคาอยู่ที่385ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่แข่งขันได้และคุณภาพข้าวไทยยังได้เปรียบ โดย การส่งออกข้าวตั้งแต่มกราคมมิถุนายน ไทยส่งออกข้าวปริมาณ 2.17 ล้านตัน ในขณะที่เดือนกรกฎาคมไทยส่งออก 5.7แสนตัน รวม 7 เดือนไทยส่งออกได้ 2.74 ล้านตัน จากเป้าส่งออกทั้งปีที่ 6 ล้านตัน
ทั้งนี้ ราคาประกันรายได้สินค้าเกษตร 5 ชนิด คือ ข้าวเปลือกเจ้าตันละ 10,000 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลิตันละ 15,000 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 14,000 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 11,000 บาท ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,000 ยางแผ่นดิบกิโลกรัม (กก.) ละ 60 บาท ราคาน้ำยางสด กก.ละ 57 บาท ยางก้อนถ้วย กก.ละ 23 บาท มันสำปะหลัง กก.ละ 2.50 บาท ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กก.ละ 8.50 บาท และปาล์มน้ำมัน กก.ละ 4 บาท

แจ้งข่าวดีชาวนาทั่วประเทศมาแล้วประกันรายได้ข้าวปี3 จุรินทร์คอนเฟิร์ม ล่าสุดเงินชาวนาประกันราคาข้าว

ตรวจสอบเงินประกันรายได้ จ่ายชดเชยส่วนต่างเงินประกันราคาข้าวงวด2829


ประกันรายได้เกษตรกรโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต2563/64จ่ายชดเชยส่วนต่างเงินประกันราคาข้าวงวด2829

ตรวจสอบเงินประกันรายได้ จ่ายชดเชยส่วนต่างเงินประกันราคาข้าวงวด2829

ชาวนาเตรียมเฮ รับเงินประกันรายได้ข้าวปี3เงินค่าเก็บเกี่ยวไร่ละ1000 รับสูงสุด20000ธกส.จ่ายเงินชาวนา


ชาวนาเตรียมเฮ รับเงินประกันรายได้ข้าวปี3เงินค่าเก็บเกี่ยวไร่ละ1000 รับสูงสุด20000ธกส.จ่ายเงินชาวนา
Esan zap

ชาวนาเตรียมเฮ รับเงินประกันรายได้ข้าวปี3เงินค่าเก็บเกี่ยวไร่ละ1000 รับสูงสุด20000ธกส.จ่ายเงินชาวนา

ตรวจสอบ"เงินประกันรายได้เกษตรกร" และเงินส่วนต่าง"ประกันราคาข้าว" [ งวดที่ 18 ] ปี 2563/64 จาก ธกส.


ตรวจสอบเงินประกันรายได้เกษตร จ่ายส่วนต่าง ‘ประกันราคาข้าว’ รอบที่ 1 (งวดที่ 18)

ตามที่ รัฐบาล ได้อนุมัติ โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 รอบที่ 1 โดยเกษตรที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมเกษตรกร ซึ่งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะโอนเงินให้กับธนาคารแต่ละสาขา วันที่ 16 พ.ย.2563 งวดแรกนั้น

กรมการค้าภายใน ออกประกาศคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว เรื่องกำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง และการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 รอบที่ 1 (งวดที่ 18) ความว่า

มติที่ประชุม ครั้งที่ 10/2564 เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2564 รอบที่ 1 (งวดที่ 18) ระบุวันที่คาดจะเก็บเกี่ยวถึงวันที่ 17 มีนาคม 2564 สำหรับข้าวเปลือกชนิดต่างๆ ณ ความชื้นไม่เกิน 15% ดังนี้

ราคาประกัน

1.ข้าวเปลือกหอมมะลิ สิ้นสุดฤดูการเก็บเกี่ยว

2.ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 11,879.99 บาท

3.ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 9,759.12 บาท

4.ข้าวเปลือกหอมปทุม ตันละ 10,943.57 บาท

5.ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 11,229.76 บาท

สำหรับ การชดชยส่วนต่างระหว่างราคาประกันรายได้กับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง มีอัตราส่วนต่างที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกณ์การเกษตรใช้ในการจ่ายให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว สำหรับการจ่ายเงินงวดที่ 18 ในวันที่ 8 มีนาคม2564 ดังนี้

ราคาชดเชย

1.ข้าวเปลือกหอมมะลิ สิ้นสุดฤดูการเก็บเกี่ยว

2.ข้าวเปลือกมะลินอกพื้นที่ ตันละ 2,120.01 บาท

3.ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 240.88 บาท

4.ข้าวเปลือกหอมปทุม ตันละ 56.43 บาท

5.ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 770.24 บาท

ประกาศ ณ วันที่ 8 มีนาคม2564

ลงชื่อ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ประธานอนุกรรมการกำกับดูและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว

ตรวจสอบ"เงินประกันรายได้เกษตรกร" และเงินส่วนต่าง"ประกันราคาข้าว" [ งวดที่ 18 ] ปี 2563/64 จาก ธกส.

ตรวจสอบ"เงินประกันรายได้เกษตรกร" และเงินส่วนต่าง"ประกันราคาข้าว" [ งวดที่ 17 ] ปี 2563/64 จาก ธกส.


ตรวจเช็คเงินประกันรายได้เกษตรกร ได้ที่นี่ https://www.baac.or.th/th/index.php?cover_page=1

ตรวจสอบเงินประกันรายได้เกษตรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 จ่ายส่วนต่าง “ประกันราคาข้าว” รอบที่ 1 (งวดที่ 17) เช็คที่นี่!

ตามที่ รัฐบาล ได้อนุมัติ โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 รอบที่ 1 โดยเกษตรที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมเกษตรกร ซึ่งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะโอนเงินให้กับธนาคารแต่ละสาขา วันที่ 16 พ.ย.2563 งวดแรกนั้น

กรมการค้าภายใน ออกประกาศคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว เรื่องกำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง และการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 รอบที่ 1 (งวดที่ 17) ความว่า

มติที่ประชุม ครั้งที่ 9/2564  เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2564 รอบที่ 1 (งวดที่ 17) ระบุวันที่คาดจะเก็บเกี่ยวถึงวันที่ 2228 กุมภาพันธ์ 2564 สำหรับข้าวเปลือกชนิดต่างๆ ณ ความชื้นไม่เกิน 15% ดังนี้

ราคาประกัน   

1.ข้าวเปลือกหอมมะลิ                   สิ้สุดฤดูการเก็บเกี่ยว

2.ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่        ตันละ  12,050.59 บาท

3.ข้าวเปลือกเจ้า                         ตันละ   9,791.00 บาท

4.ข้าวเปลือกหอมปทุม                  ตันละ   10,916.68 บาท

5.ข้าวเปลือกเหนียว                     ตันละ   11,221.75 บาท

สำหรับ การชดชยส่วนต่างระหว่างราคาประกันรายได้กับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง มีอัตราส่วนต่างที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรใช้ในการจ่ายให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว สำหรับการจ่ายเงินงวดที่ 17 ในวันที่  1 มีนาคม 2564  ดังนี้

ราคาชดเชย 

1.ข้าวเปลือกหอมมะลิ                       สิ้นสุดฤดูการเก็บเกี่ยว

2.ข้าวเปลือกมะลินอกพื้นที่                  ตันละ 1,949.41 บาท

3.ข้าวเปลือกเจ้า                              ตันละ 209.00 บาท

4.ข้าวเปลือกหอมปทุม                       ตันละ 83.32 บาท

5.ข้าวเปลือกเหนียว                          ตันละ 778.25 บาท

ประกาศ ณ วันที่ 1 มีนาคม 2564 

ลงชื่อ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ประธานอนุกรรมการกำกับดูและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว

ขอบคุณที่รับชม “@ต้มยำกุ้งTV” ค่ะ

ที่มาของข่าว ขอบคุณ”กรุงเทพธุรกิจ”

ตรวจสอบ"เงินประกันรายได้เกษตรกร" และเงินส่วนต่าง"ประกันราคาข้าว" [ งวดที่ 17 ] ปี 2563/64 จาก ธกส.

โอนแล้ว!"เงินประกันรายได้เกษตรกร" และเงินส่วนต่าง"ประกันราคาข้าว"[ งวดที่ 26 ] ปี 2563/64


ตรวจสอบเงินประกันรายได้เกษตร จ่ายส่วนต่าง ‘ประกันราคาข้าว’ รอบที่ 1 (งวดที่ 26)

ตามที่ รัฐบาล ได้อนุมัติ โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 รอบที่ 1 โดยเกษตรที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรกรซึ่งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โอนเงินให้กับธนาคารแต่ละสาขา วันที่ 16 พ.ย.2563 งวดแรกนั้น

กรมการค้าภายใน ออกประกาศคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว เรื่องกำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง และการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 รอบที่ 1 (งวดที่ 26) มีความว่า

มติที่ประชุม ครั้งที่ 17/2564  เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2564 รอบที่ 1 (งวดที่ 26) ระบุวันที่คาดจะเก็บเกี่ยวถึงวันที่ 26 เมษายน2 พฤษภาคม 2564 สำหรับข้าวเปลือกชนิดต่างๆ ณ ความชื้นไม่เกิน 15% ดังนี้

ราคาประกัน   

1.ข้าวเปลือกหอมมะลิ                   สิ้นสุดฤดูการเก็บเกี่ยว

2.ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่        ตันละ  11,640.78 บาท

3.ข้าวเปลือกเจ้า                         ตันละ   9,304.22 บาท

4.ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี             ตันละ   10,748.92 บาท

5.ข้าวเปลือกเหนียว                     ตันละ   10,720.49 บาท

สำหรับ การชดชยส่วนต่างระหว่างราคาประกันรายได้กับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง มีอัตราส่วนต่างที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกณ์การเกษตรใช้ในการจ่ายให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว สำหรับการจ่ายเงินงวดที่ 26 ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2564 ดังนี้

ราคาชดเชย 

1.ข้าวเปลือกหอมมะลิ                       สิ้นสุดฤดูการเก็บเกี่ยว

2.ข้าวเปลือกมะลินอกพื้นที่                  ตันละ  2,359.22 บาท

3.ข้าวเปลือกเจ้า                             ตันละ  695.78 บาท

4.ข้าวเปลือกหอมปทุม                      ตันละ  251.08 บาท

5.ข้าวเปลือกเหนียว                         ตันละ  1,279.51 บาท

ขอบคุณที่รับชม “@ต้มยํากุ้งTV “ค่ะ 😀😀

ที่มาของข่าว ขอบคุณ”กรุงเทพธุรกิจ”

โอนแล้ว!"เงินประกันรายได้เกษตรกร" และเงินส่วนต่าง"ประกันราคาข้าว"[ งวดที่ 26 ] ปี 2563/64 .

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 หรือข่าวที่เกี่ยวข้องอื่นๆ โปรดไปที่: cheerthaipower.com การกระทำ

ข่าวดีชาวนาทั่วประเทศ ประกันรายได้ข้าวเงินช่วยชาวนา ค่าเก็บเกี่ยวปี64ชาวนาฟังด่วนเพิ่มพื้นที่รับ5พัน และรูปภาพที่เกี่ยวข้องโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64

ข่าวดีชาวนาทั่วประเทศ ประกันรายได้ข้าวเงินช่วยชาวนา ค่าเก็บเกี่ยวปี64ชาวนาฟังด่วนเพิ่มพื้นที่รับ5พัน
ข่าวดีชาวนาทั่วประเทศ ประกันรายได้ข้าวเงินช่วยชาวนา ค่าเก็บเกี่ยวปี64ชาวนาฟังด่วนเพิ่มพื้นที่รับ5พัน

>>> สามารถหาข้อมูลที่น่าสนใจอื่นๆ ได้ที่นี่ cheerthaipower.com
แบ่งปันที่นี่

#ขาวดชาวนาทวประเทศ #ประกนรายไดขาวเงนชวยชาวนา #คาเกบเกยวป64ชาวนาฟงดวนเพมพนทรบ5พน.

ประกัณราคาข้าว,ประกัณรายได้เกษตรกร,ไร่ล่ะ500บาท,ประกันรายได้,ชาวนา,ข่าวชาวนา,ช่วยชาวนา,ข่าวช่วยชาวนา,ข่าวชาวนาล่าสุด,เกษตรกร,ข่าวเกษตรกรล่าสุด,ช่วยเกษตรกร,เงินชดเชยส่วนต่าง,ข้าว,ยางพารา,ข้าวโพด,มันสําปะหลัง,ปาล์มน้ำมัน,เงินชาวนา,เงินเกษตรกร,ธกส,ธนาคารเพื่อการเกษตร,ชาวบ้าน,ข่าวชาวบ้าน,ประชาชน,กระทรวงพาณิชย์,จุรินทร์,กระทรวงเกษตร,เฉลิมชัย,ข่าวด่วน,บัตรคนจน,โควิด,kapook,sanook,ข่าวสด,ข่าวเด่น,ข่าวใหม่,ข่าววันนี้,จ่ายเงินชาวนา,เงินเยียวยาโควิดรอบ3,ธกสจ่ายเงิน,จ่ายเงินเกษตรกร,เราชนะ,ม.33เรารักัน.

ข่าวดีชาวนาทั่วประเทศ ประกันรายได้ข้าวเงินช่วยชาวนา ค่าเก็บเกี่ยวปี64ชาวนาฟังด่วนเพิ่มพื้นที่รับ5พัน.

โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64.

เราหวังว่าคุณจะพบข้อมูลเกี่ยวกับ โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 ที่นี่
ขอบคุณที่รับชมเนื้อหานี้

35 thoughts on “ข่าวดีชาวนาทั่วประเทศ ประกันรายได้ข้าวเงินช่วยชาวนา ค่าเก็บเกี่ยวปี64ชาวนาฟังด่วนเพิ่มพื้นที่รับ5พัน | ข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับ โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64”

  1. เหลืออีก1เดือนได้เกี่ยวแล้วเมื่อไหล่จะสรุป ปุ๋ยราคาแพงขึ้นแพงขึ้น…..ภาชีอยุธยาจ้า

    Reply
  2. พูดย้ำไปย้ำมา_แต่ไม่รู้ว่าจะจ่ายชาวนาวันไหน_ไม่มีข้อมูลการจ่ายแล้วจะมาบอกทำไม

    Reply
  3. มันเป็นจริงหรือเรื่องประกัน เงินนาอินทรีย์มันก็ยังไม่จ่าย

    Reply
  4. ตอนนี้อะไรก็แย่หมดจะช่วยอะไรกะใครที่ไหนให้มันเร็วหน่อยอย่าลงมาพูดขอไปทีถึงเวลาเงินชาวนาค่าแพาะปลุกค่าเก็บเกี่ยวก็จ่ายมาราคาข้าวตกเสียขนาดนี้ชาวนาเหลือซังกะหนี้คะยังจะเจอโควิดอีกมันกะทบหมดนั้นแหละอย่ามั่วแต่พูดมาก😂😂😂😂😂

    Reply
  5. ค่าเพาะปลูกยังไม่ได้เลยแล้วค่าเก็บเกี่ยวจะมาได้ไงปุ๋ยราคาแม่งลูก800กว่าข้าวราคา6700นี่เอาแต่คลิปไปวันๆชาวนาจะตายห่ากันอยู่แล้ว

    Reply

Leave a Comment