ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด จ.พระนครศรีอยุธยา : วันใหม่วาไรตี้ (28 ก.ค. 63) | ศูนย์วิจัย และ พัฒนา ประมง น้ำ จืด

ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด จ.พระนครศรีอยุธยา : วันใหม่วาไรตี้ (28 ก.ค. 63)


นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

กรมประมง ถือเป็นหน่วยงานที่จัดหาพันธุ์ปลาและพันธุ์สัตว์น้ำต่าง ๆ ที่จะนำมาใช้ในพิธีที่สำคัญ ซึ่งพันธุ์ปลาและพันธุ์สัตว์น้ำที่นำมาปล่อยจะมีความสำคัญและแต่ละชนิดจะมีประโยชน์ต่อระบบนิเวศอย่างไร ตามไปเรียนรู้กันที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด จ.พระนครศรีอยุธยา
ชมย้อนหลังรายการ \”วันใหม่วาไรตี้\” ได้ที่ http://www.thaipbs.or.th/WanmaiVariety
ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด พันธุ์สัตว์น้ำ ระบบนิเวศ
\r
\r
กด Subscribe \r
ติดตามรายการดีๆของช่อง ได้ที่ : http://goo.gl/hdy2ye\r
และ ติดตามไทยพีบีเอสออนไลน์ ได้ที่ \r
\r
Website : http://www.thaipbs.or.th \r
Facebook : http://www.fb.com/ThaiPBSFan \r
Twitter : http://www.twitter.com/ThaiPBS \r
Instagram : http://www.instagram.com/ThaiPBS \r
LINE : http://www.thaipbs.or.th/AddLINE\r
YouTube : http://www.youtube.com/ThaiPBS

ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด จ.พระนครศรีอยุธยา : วันใหม่วาไรตี้ (28 ก.ค. 63)

เที่ยวตลาดปลาที่่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดขอนแก่น


น้าได้แวะชมตลาดปลาสวยงาม จ.ขอนแก่นที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด เป็นตลาดที่น่าเดินเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง มีร้านปลาไม่มากแต่ขายไม่ซ้ำกัน มีทั้งปลาแม่น้ำ ปลาสวยงามทั่วไป ปลาทะเล และปลาเศรษฐกิจ ซึ่งราคาก็ไม่ได้แตกต่างจากกรุงเทพฯมากนัก เดินเที่ยวกับน้าคลิปนี้กันครับ
น้าเดช
ติดตามและร่วมพูดคุยกันได้ที่
https://www.facebook.com/TalkofFishesByNaDej

เที่ยวตลาดปลาที่่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดขอนแก่น

เทคนิคการเลี้ยงปลานิลให้โตเร็ว !?? ด้วยฟางข้าวกับขี้วัว ???


เทคนิคการเลี้ยงปลานิลให้โตเร็ว !?? ด้วยฟางข้าวกับขี้วัว ???

เทคนิคการเลี้ยงปลานิลให้โตเร็ว !?? ด้วยฟางข้าวกับขี้วัว ???

สุสรีฟาร์ม งานประมงน้ำจืด


คำอธิบาย

สุสรีฟาร์ม งานประมงน้ำจืด

เลี้ยงปลากือเลาะห์หรือปลาพลวงชมพู ราคาซื้อขายบ้านเรา กก.ละ 2,000 บาท แต่ถ้าในฮ่องกง กก. 8,000 บาท!!


ฟังไม่ผิดแน่ครับ!! ปลาเศรษฐกิจตัวใหม่มาแรง แซงทางโค้ง ของบ้านเรา
มีแต่ข้อมูล ไม่มีแหล่งรับซื้อที่ชัดเจน โปรดศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุนนะครับ
“จะถือเป็นปลาน้ำจืดราคาแพงที่สุดในโลกหรือเปล่าไม่แน่ใจ แต่ถ้าบอกว่าแพงที่สุดในอาเซียนน่าจะได้ ราคาซื้อขายในบ้านเราอยู่ที่ กก.ละ 2,000 บาท แต่ถ้าในฮ่องกง 8,000 บาท”
ดร.จูอะดี พงศ์มณีรัตน์ รองอธิบดีกรมประมง กล่าวถึง “ปลาพลวงชมพู” ที่กรมประมง โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดยะลา ได้ศึกษาจนสามารถขยายพันธุ์ส่งเสริมให้เกษตรกรเลี้ยงเป็นปลาเศรษฐกิจตัวใหม่ได้แล้ว
เป็นปลาน้ำจืดประจำท้องถิ่น จ.ยะลา และ นราธิวาส มีชื่อเรียกตามภาษาท้องถิ่นว่า อีแกกือเลาะห์ หรือปลากือเลาะห์ อยู่ในตระกูลเดียวกับปลาเวียน และปลาพลวงหิน มีความโดดเด่นในสีของเกล็ดที่มีลักษณะเป็นสีชมพู ครีบหลังและครีบหางสีแดง เป็นปลาพลวงชนิดเดียวที่รับประทานทั้งเกล็ด

นิยมบริโภคในประเทศแถบอินโดจีน โดยเฉพาะมาเลเซีย ที่ยังไม่สามารถวิจัยเพาะขยายพันธุ์ได้ และมีกฎหมายห้ามจับจากธรรมชาติมารับประทาน
สาเหตุที่มีราคาสูงลิ่ว เพราะเป็นปลารสชาติดี หาได้ยากอยู่ในสภาวะใกล้สูญพันธุ์
“เราเริ่มทดลองเลี้ยงมาตั้งแต่ปี 2515 และมาศึกษาหาวิธีการขยายพันธุ์อย่างจริงจังเมื่อปี 2548 การเลี้ยงจะต้องเป็นพื้นที่มีน้ำไหลตลอดเวลา น้ำต้องมีปริมาณออกซิเจนสูงอย่างน้อย 6 ppm ขึ้นไป ถ้าน้อยกว่านี้จะตายทันที ในขณะที่ปลาน้ำจืดชนิดอื่นยังสามารถมีชีวิตรอดได้ นอกจากนั้น ยังเป็นปลาที่ให้ไข่น้อย แค่ 5001,000 ฟอง ต่างกับปลาน้ำจืดชนิดอื่นๆ ให้ไข่ตั้งแต่หมื่นฟองขึ้นไปจนถึงแสนฟอง เลยเป็นเหตุให้เสี่ยงสูญพันธุ์ได้ง่ายในธรรมชาติ และการนำมาผสมเทียมเพื่อขยายพันธุ์ยังยากกว่าปลาน้ำจืดชนิดอื่น เนื่องจากระยะไข่สุกพร้อมที่จะผสมพันธุ์ได้ ไข่ที่มีอยู่น้อยแล้ว ยังสุกแก่ไม่พร้อมกันอีก
นายนภดล จินดาพันธ์ ผอ.ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดยะลา อธิบายถึงความยากของการขยายพันธุ์ เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความชำนาญพิเศษ สังเกตระยะที่มีไข่สุกพร้อมมากที่สุด ถึงจะทำได้สำเร็จ และส่งเสริมให้เกษตรกร 50 ราย ในพื้นที่ อ.ธารโต และ อ.เบตง จ.ยะลา เลี้ยงในบ่อดิน ต่อท่อตรงมาจากแหล่งน้ำธรรมชาติและปล่อยให้ไหลผ่านระบายออกไป
โดยปล่อยลูกปลาขนาด 23 นิ้ว หนัก 20 กรัม ในอัตรา 15 ตัวต่อพื้นที่บ่อ 1 ตร.ม. ให้อาหารปลาปลาดุกวันละ 2 ครั้ง เช้าเย็น มื้อละ 23% ของน้ำหนัก ตัว…ใช้เวลาเลี้ยง ปีครึ่งถึงสองปี ถึงจะมีน้ำหนัก 2.3 กก. ได้ขนาดตรงความต้องการของตลาด

และจากการคำนวณต้นทุนค่าอาหาร ผอ.ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดยะลา บอกว่า ปลาพลวงชมพูให้ผลตอบแทนสูง มีอัตราแลกเนื้ออยู่ที่ 23 : 1 ถ้าจะเลี้ยงให้ได้ขนาด 2.3 กก. ใช้อาหารไม่เกิน 7 กก.
ฉะนั้นจะมีต้นทุนค่าอาหารแค่ตัวละ 210 บาท…แต่สามารถขายได้สูงถึง 4,600 บาท
เพื่อให้เกษตรกรสามารถเลี้ยงได้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น ขณะนี้ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดยะลากำลังอยู่ระหว่างศึกษาการเลี้ยงปลาพลวงชมพูในบ่อซีเมนต์ ด้วยระบบน้ำหมุนเวียน…สนใจสอบถาม รายละเอียดได้ที่ 073297042.
ที่มา http://www.thairath.co.th/content/723575

เลี้ยงปลากือเลาะห์หรือปลาพลวงชมพู ราคาซื้อขายบ้านเรา กก.ละ 2,000 บาท แต่ถ้าในฮ่องกง กก. 8,000 บาท!!

นอกจากการดูหัวข้อนี้แล้ว คุณยังสามารถเข้าถึงบทวิจารณ์ดีๆ อื่นๆ อีกมากมายได้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่CRYPTO

4 thoughts on “ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด จ.พระนครศรีอยุธยา : วันใหม่วาไรตี้ (28 ก.ค. 63) | ศูนย์วิจัย และ พัฒนา ประมง น้ำ จืด”

  1. 547535 3885Hi. Cool write-up. Theres a issue with the website in chrome, and you may want to check this The browser may be the marketplace chief and a big component of other folks will miss your outstanding writing due to this issue. I like your Post and I am recommend it for a Internet site Award. 475484

    Reply

Leave a Comment