Table of Contents
โลกร้อนส่งผลแล้ว ‘สัญญาณเตือนสีแดง’ ของมนุษยชาติ ไทยทำอะไรอยู่ | Executive Espresso EP.256 | สร้างรายได้จากการลงทุนออนไลน์ที่บ้าน.
[penci_button link=”#” icon=”” icon_position=”left” align=”center” text_color=”#000000″]ชมวิดีโอด้านล่าง[/penci_button]คุณสามารถค้นหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพิ่มเติมได้ที่นี่: ดูการอัปเดตเพิ่มเติมที่นี่ .
โลกร้อนส่งผลแล้ว ‘สัญญาณเตือนสีแดง’ ของมนุษยชาติ ไทยทำอะไรอยู่ | Executive Espresso EP.256 และรูปภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้.
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ เทคโนโลยี ใหม่ ใน ปัจจุบัน.
เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ผู้คนเริ่มรู้จักคำว่า ‘ภาวะโลกร้อน’ แต่ผ่านไปกว่าสองทศวรรษ ไม่มีเวลาเหลือให้ละเลยในวันนี้ เพราะองค์กรที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งนักวิทยาศาสตร์ที่บอกว่านี่คือสัญญาณเตือนภัยระดับ ‘รหัสแดง’ ของมนุษยชาติ เคน นครินทร์ สรุปข่าวความเคลื่อนไหวภาวะโลกร้อนในปัจจุบัน ประเมินความเสียหายในอนาคตหากเราสามารถหยุดภาวะโลกร้อนได้ และอัพเดทข่าวสารการปรับตัวของประเทศต่างๆ ทั่วโลก เพื่อให้บรรลุเป้าหมายสำคัญในการหยุดยั้งภัยพิบัติที่ไม่มีเวลาให้เรามาสาย การประทับเวลา 00:00 เริ่ม 00:51 น. บทนำ 04:42 ภาวะโลกร้อน ‘ Code Red’ สัญญาณสำคัญจาก IPCC 11:55 สถานการณ์ที่ดีที่สุด 14:23 ‘ข้อตกลงปารีส’ หนึ่งในความพยายามของมนุษยชาติ 16:46 จะเกิดอะไรขึ้นหากภาวะโลกร้อนคือ ไม่เริ่ม 21:18 การปรับตัวของประเทศต่างๆ ทั่วโลก 24:29 ประเทศไทยกำลังทำอะไรอยู่? ———————————————— #TheSecretSauce #TheStandardPodcast #TheStandardCo #TheStandardTH ..
>>ดูข้อมูลอัปเดตเพิ่มเติมได้ที่นี่: ดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพิ่มเติมที่นี่
เทคโนโลยี ใหม่ ใน ปัจจุบัน – การค้นหาที่เกี่ยวข้อง.
#โลกรอนสงผลแลว #สญญาณเตอนสแดง #ของมนษยชาต #ไทยทำอะไรอย #Executive #Espresso #EP256.
The Secret Sauce,เคน นครินทร์,นครินทร์ วนกิจไพบูลย์,ken nakarin,ซีเคร็ตซอส,ธุรกิจ,ผู้บริหาร,brand,business,เคล็ดลับความสำเร็จ,podcast,พอดแคสต์,Podcast,THE STANDARD Podcast,เคน,นครินทร์,Warming,Climate Change,ภาวะโลกร้อน,IPCC,ข้อตกลงปารีส,พิธีสารเกียวโต,The Paris Agreement
โลกร้อนส่งผลแล้ว ‘สัญญาณเตือนสีแดง’ ของมนุษยชาติ ไทยทำอะไรอยู่ | Executive Espresso EP.256
เทคโนโลยี ใหม่ ใน ปัจจุบัน.
ด้วย ความรู้ ในหัวข้อ เทคโนโลยี ใหม่ ใน ปัจจุบัน นี้จะ นำความรู้ มาสู่คุณ ขอบคุณมาก.
Timestamp
00:00 Start
00:51 เกริ่นนำ
04:42 โลกร้อน ‘รหัสแดง’ สัญญาณสำคัญจาก IPCC
11:55 Best Case Scenario
14:23 ‘The Paris Agreement’ หนึ่งในความพยายามของมนุษยชาติ
16:46 เหตุการณ์ที่จะเกิดหากยังไม่เริ่มตื่นตัวในภาวะโลกร้อน
21:18 การปรับตัวของประเทศทั่วโลก
24:29 ประเทศไทยทำอะไรอยู่?
ไทยยังแย่งแดกกันอยู่ แย่งทรัพยากรนั่นแหละ
แล้ว ก็เหมือนๆเดิม ทำเป็นลดโลกร้อน แค่ผักชีโรยหน้าไปงั้นแหละ
จะเอาจริงๆต้องปฏิวัติทั้งโลก ซึ่งดูๆแล้ว
บอกได้คำเดียวว่า ดากกุนิ
มีคนถาม Elon Musk ว่า "ทำไมต้องไปดาวอังคารในเมื่อเราแก้ไขปัญหาโลกร้อนได้" เขาตอบว่า "เงินทั้งหมดของผมทุ่มลงไปการกับการที่ครึ่งหนึ่งใช้สร้างโลกสำรองสำหรับมนุษยชาติและสัตว์ในสปีชีย์ต่างๆคือดาวอังคาร(SpaceX และโครงการอวกาศต่างๆ) อีกครึ่งหนึ่งคือเพื่อทำให้โลกดีขึ้นจากการถูกอุกาบาตพุ่งชนเหมือนไดโนเสาร์หรือสงสรามโลกครั้งที่ 3 หรือเราทำลายมันเอง คือโลกร้อน(แสดงว่าเขารู้แล้วว่าไม่ทัน) ด้วยการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า EV คือ Tesla และอื่นๆ" มาดูที่ไทย "เผาป่า ตัดต้นไม้ปลูกพืชเกษตรเพื่อการค้าพอราคาตกก็ตัดทิ้ง ตัดต้นไม้ถมที่เพื่อขึ้นป้ายประกาศ 'ขายหรือให้เช่า' หวังขายที่ให้เศรษฐีจีนมั้ง… ครับ(ปลูกป่าก็มีแต่น้อยลง)"
สายเกินไปแล้วจริงๆๆ ครับ
ต้องไปบอกโรงงานผูผลิตว่า อะไรที่ห้ามผลิตอีก ไม่ใช่มาบอกประชาชนผู้บริโภค เพราะ ผู้บริโภคก็ไม่มีทางเลือกที่ต้องใช้ของที่ผลิตออกมานั่นแหละ
บ้านเรามันจะทำอะไรได้แค่วัคชีนมีคุณภาพมันยังกามาไม่ได้รัฐบาลสันตีน
ประเทศไทยถ้ายังเป็น รบ เซ็ตนี้สืบทอดอำนาจ ไม่น่าทำได้หรอก
ต่อไปมนุษย์คงจะมีผิวหนังหนามากเพื่อลดการสูญเสียน้ำ
ประเทศไทยตกขบวนตั้งแต่เป้าหมายแล้วค่ะ ดีไม่ดีอาจเจอผ่านกฎหมายภาษี carbon net zero เพราะประเทศผู้ซื้อเขาดันบรรลุเป้าหมายได้ก่อน
ถูกต้องแล้วครับ เป็นสิ่งสำคัญเร่งด่วน อย่างมาก ไม่ว่าจะต้องใช้เม็ดเงินเท่าไร ก็ต้องทำ ครับ
3:10 เห็นด้วยที่สุดครับ เราคงต้อง priority จากคนที่สร้าง impact ได้มากที่สุด แต่ก็ต้องขนานไปกับการให้ความตระหนัก และให้ความรู้ต่อประชาชนไปเรื่อยๆ
6:36 เข้าใจเรื่อง Co2 อธิบายได้เห็นภาพมากขึ้นครับ หวังว่าจะมีเอกสารชั้นต้นเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศออกมาเรื่อยๆครับ เพราะสำคัญที่สุดในการแก้ไขปัญหาคือการรู้ปัญหาก่อน
14:15 ตัวเลข 1.5 C พูดให้เห็นภาพมากขึ้น เวลาอากาศร้อนมากๆแล้วฝนตกลงมา อุณหภูมิที่ลดลงมานั้นยังไม่ถึง 1.5 C. ด้วยซ้ำ ดังนั้นตัวเลขนี้ไม่น้อยเลย impact สุดๆครับ พูดให้เห็น impact มากไปกว่านี้แบบคณิตศาสตร์ ปัจจุบันโลก (ปี 2020) เรามีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 14.9 C ดังนั้น 1.5 C ก็คิดเป็น 10.07% เห็นแบบนี้ก็ impact ขึ้นมาทันทีครับ
13:30 เห็นด้วย ทุกคนต้องนึกเอาไว้เลยว่าเราประมาทมาตลอด ตอนนี้ก็ต้องหันมาป้องกันให้ดีที่สุดต่อไปตลอดเช่นกัน fair enough, right?
20:17 หากทุกรัฐมองแต่ economic growth โดยไม่ใส่ใจการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากพอ ความล่มสลายของโลกก็คงเติบโตในอัตราเร่งพอๆกับผลตอบแทนของนักลงทุน
21:30 ตัวเลขค่อนข้าง practical ดีนะครับ มาตรการแต่ละประเทศมองกัน 50% อัพทั้งนั้น แต่เดาว่าคงมองภาคส่วนหลักๆเท่านั้น อย่างที่บอกที่ข้อความแรกเลย ภาคประชาชนก็สำคัญที่สุดในแง่นึงอยู่ดี เหมือนเป็นจิตสำนึกของกลุ่มคนที่มีศรัทธาร่วมกัน หากไม่มี พูดไปก็เหมือนคนไม่อิน ก็ไม่ทำตามอยู่ดี เป็น domino of failure
24:30 Co2 0% ใน 2065-2070, EV Car 30% ใน 2030
25:06 เป้าหมาย Co2 0% แต่ละประเทศ
25:40 นโยบายสำคัญของประเทศไทย
สนับสนุนและเห็นด้วยเลยค่ะ ที่เราต้องช่วยกันตั้งแต่วันนี้
สู่สารไปยังผู้นำโลกที่ขาดสติ สะสมอาวุธนิวเคลียรื ทำเรือรบ เรือบรรทุกเครื่องบิน เรือดำน้ำ เตรียมทำสงครามเข่นฆ่ากันทำไม ไม่หันมาจบมือกันสู่สงครามโลกร้อนดีกว่า เลิกนำงบประมาณไปสร้างนานาอาวุธ นำไปช่วยยับยั้งโลกร้อนกันดีกว่า ระดมปลูกต้นไม้ เปลียนรถยนต์ใช้น้ำน้ำแก๊สปล่อยคาร์บอน ส่งเสริมให้เป็นรถไฟฟ้าทั้งโลก และให้รถมีราคาถูก วิธีที่จะทำได้รวดเร็วที่สุดลดคาร์บอนฯ หรือลดปัจจัยที่ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนฯ อื่นๆครับ
ผมคิดว่า ภาคศาสนาน่าจะมีส่วนช่วยได้มากนะครับ คิดดูศาสนายึดเหนี่ยวจิตใจคนมานับ 2500 กว่าปี และทำให้คนเชื่อในเรื่องเดียวกันได้ คิดเล่นๆนะถ้าศาสนาพุธ มีศีลหรืิอความเชื่อร่วมกันว่า การปลูกต้นไม้คือ มหาบุญกุศล คิดดูการปลูกต้นไม้จะเพิ่มมาปีละกี่ต้น
คนไทยชอบทำบุญอยู่แล้ว
ไปเอาวัคซีนมาก่อนไป…
จากที่ฟัง รู้สึกผิดหวังกับวิสัยทัศน์ของทีมนักวิจัย ที่ทำได้แค่บอกว่าให้หยุดทำให้แย่ลง แต่กลับไม่มีไอเดียเสนอวิธีที่จะทำให้โลกดีขึ้นเลย แต่ยังไงก็ตามเดี๋ยวอีกไม่นานก็จะมีคนมาเสนอเทคโนโลยีที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เทคโนโลยีที่ทำให้โลกอุณหภูมิลดลงได้ด้วย เทคโนโลยีพลังงานสะอาด100% ส่วนรถEVนะหรอ อีกไม่กี่ปีคนก็เลิกใช้แล้ว เพราะปลายทางของแบตเตอรี่มันก็เป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่สร้างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
โลกไม่ตายหรอกครับ แต่มนุษย์นี้แหละครับ จะตาย
ในฐานะคนทั่วไป อยากจะเริ่ม จะทำอะไรได้บ้างครับ
มีคนบอกว่า โลกร้อนเป็นผล ของการสะสม สิ่งที่มนุษย์ทำลายไว้ และไม่มีการสร้าง หรือ ทดแทนคืน แก่ธรรมชาติ มาเป็นหลายล้าน ปีแล้ว ตั้งแต่มนุษย์ รุ่นแรก เริ่มรังแก ธรรมชาติ ถ้าจะเพิ่งมาตื่นตัว ตอนนี้ คงยากอยู่ จะมีก็แต่ Miracle (ความสมัคคี และ ความรัก ของทุกคนทั้งโลก – ช่วยกัน คนละไม้ คนละมือ) (มีคนเหมือน ลุงสมหมาย คนบ้าปลูกต้นไม้ หลาย ล้านคน) เท่านั้นแหล่ะ ที่จ่ะเกิดขึ้นได้ ส่วนมนุษย์ ทำได้แค่เพียง ทำให้ความเลวร้าย ครั้งนี้ เบาบางลง แต่ไม่มีทางจะหยุด ความร้ายแรง ของธรรมชาติ ที่สะสม มาเนิ่นนาน ที่กำลัง เอาคืน กับมนุษย์ ได้ มันเป็น กรรม ของมนุษย์ แท้ๆ … ทุกสรรพสิ่ง ล้วน ตกอยู่ใน วังวน แห่ง การ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และ ดับไป … แม้กระทั่ง จักรวาล ก็ไม่มี ยกเว้น 🤔🤔🤔
ตัวอย่างที่ธรรมชาติกำลังฟ้องในขณะนี้คือเรื่องcovid-19 การlockdownที่มีการเคลื่อนไหวของมนุษย์น้อยที่สุด ส่งผลให้อากาศและสิ่งแวดล้อมได้รับการฟื้นฟูเป็นอย่างมาก
เวลาไปร้านค้า ซื้อลูกอม 3 เม็ด แม่ค้าใส่ถุงให้ตลอด ต้องบอกว่าไม่เอาถุง ของบางอย่างใส่รวมกันได้ ร้านค้าอยากให้เกิดความสะดวก จัดถุงให้ไม่อั้น แต่พอถึงบ้านแล้วกลายเป็นขยะ
ศ.ดร.เกียรติคุณ สุชาติ โกศลกิติวงศ์ อดีตทูตสันติภาพแห่งองค์กรสภาธรรมนูญโลก (ผู้ก่อตั้งหุบผาสวรรค์) ที่ถูกมองว่าเป็นองค์กรงมงาย ได้เดินงานศาสนาเพื่อสันติภาพ และรณรงค์เรื่องภาวะโลกร้อนไปทั่วโลก ได้เคยเสนอในการประชุมองค์กรศาสนาและสันติภาพที่ประเทศอินเดีย ตั้งแต่ปี 2531 รณรงค์ให้ชาวโลกปลูกต้นไม้ โดยใช้คน 50 ล้านคน ปลูกต้นไม้ทั่วโลกติดต่อกัน 10 ปี จึงจะหยุดยั้งโลกร้อนเพิ่มอีก 1.5 C แต่ที่ผ่านมาไม่มีการปลูกต้นไม้อย่างเพียงพอ แต่ก็สายเสียแล้ว โลกเดินหน้าร้อนอย่างรุนแรงแล้วในวันนี้ และเตื่อนสติผู้นำทั่วโลก เปลี่ยนงบประมาณสร้างอาวุธ นำงบประมาณลดโลกร้อนจะดีกว่า เพราะปัญหาโลกร้อนเดือดร้อนทุกประเทศ…ติดต่อศึกษาผลงาน ดร.สุชาติ โทร.024210489
The cities near the seas may go down to the sea included Bangkok!
ขอบคุณที่ผลักดันสังคมครับ
รัฐฯยังปล่อยให้นำเข้าสารพิษเข้ามาฆ่าคไทยปีละหลายแสนตัน
นักการเมืองยังปล่อยให้นำขยะพิษเข้าประเทศอยู่เลย ขยะพลาสติคเกลื่อนถนนที่สาธารณทั่วไป
ธรรมชาติยิ่งใหญ่เสมอ หากไม่เคารพ มุ่งแต่ทำลายสิ่งแวดล้อมเท่ากับทำร้ายตนเอง
อยากให้ทุกคนได้เรียนรู้และตระหนักถึงภาวะนี้ว่าส่งผลถึงการอยู่อาศัยของเราจริงๆ ตจว เกษตรกรเรายังเผาป่า เผาอ้อยกันอยู่เลย แต่ผลของมันกระทบกับทุกคนบนโลก
ถามว่า "ปัญหาโลกร้อน" ไทยกำลังทำอะไรอยู่
คำตอบง่าย ๆ เลยครับ ให้ดูใน "ปัจจุบัน" นี้ก่อน
ที่เรากำลังเจอกับ "ปัญหาโควิด"
ตั้งแต่เริ่มระบาดใหม่ ๆ "หน้ากากอนามัย" หายไปไหน…ไม่รู้
ต่อมา…สั่งวัคซีนล่าช้า
ต่อมา…โรงพยาบาลเอกชน ไม่รับตรวจเชื้อ
ต่อมา…โรงพยาบาลรัฐเต็ม ไม่รับรักษาใครแล้ว
ต่อมา…คนตายใน "โรงพยาบาล" เพิ่มขึ้นทุกวัน
ต่อมา…คนนอนตายข้างถนน และ ในบ้าน อย่างมากมาย
ต่อมา…มีคนตายเป็นแสน
ถามว่า…รัฐบาลเรา แก้ไขอย่างไร
แล้ว "ปัญหาโลกร้อน" ในไทยตอนนี้
มี "คนตาย…กี่คน" แล้ว
คุณเคนคิดว่า "บ้านเมืองเรา" จะทำอะไรหรือครับ
คนเพิ่มขึ้น บริโภคเพิ่มขึ้น ผลิตเพิ่มขึ้น สะสมเพิ่มขึ้น มลพิษเพิ่มขึ้น โลกร้อนเพิ่มขึ้น ภัยธรรมชาติเพิ่มขึ้น โรคระบาดเพิ่มขึ้น สมดุลย์ธรรมชาติลดลง สมดุลย์สังคมลดลง เป็นไปตามกฏธรรมชาติหรือหลักอิทัปปัจจยตา เมื่อมีสิ่งนี้สิ่งนี้(นั้น)จึงเกิดขึ้น ปัญหาโลกแก้ที่ตัวคนโดยเฉพาะคนทีอยู่ส่วนบนสุดของสังคมลดหลั่นลงมา เราให้คนเร่ร่อน คนอนาถาแก้ปัญหานี้ไม่ได้หรอกเพราะเขาไม่ได้สร้างปัญหา
การแก้ปัญหา เราได้ตั้งคำถามที่ถูกต้องหรือยัง
ปัญหา คือ โลกร้อน ?
สาเหตุของปัญหา คือ มนุษย์ ?
การออกจากปัญหา คือ ควบคุมอุณหภูมิให้ไม่เกิน 1.5องศาถึงปี2100 ?
แนวทางการการแก้ปัญหา คือ ลด co2 ?
เราตั้งคำถามเหล่านี้หรือไม่ ถ้าตั้งแล้ว คำถามมันถามตรงจุดหรือไม่ ลองตั้งคำถามให้ตรงจุดดู สำหรับผม
ปัญหาคือ ธรรมชาติที่เราพึ่งพิงอยู่ เริ่มไม่ปกติทำให้มีผลกระทบของการดำรงอยู่ของมนุษย์และสัตว์
สาเหตุของปัญหา คือ จำนวนมนุษย์ที่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติจนเกินพอดี ต่อสมดุลปกติของ ธรรมชาติ ทำให้โลกเกิดภัยสภาวะต่างๆ
การออกจากปัญหา คือ การลดปัญหา คือมนุษย์ที่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติจนเกินพอดี กล่าวคือลดจำนวนประชากรที่มุ่งใช้ทรัพยากรธรรมชาติมากกว่าปกติ และให้คงประชากรที่ใช้ทรัพยากรในระดับต่ำกว่าปกติ
แนวทางการแก้ปัญหาคือ ประชากรที่คงอยู่ในโลกต้องมีปริมาณมี่เหมาะสม ในอัตราส่วน ที่พอดีหรือน้อยกว่า จำนวนทรัพยากรทางธรรมชาติ สรุปคือ ลดจำนวนปนะชากร ทำให้ประชากรที่มีอยู่รู้คุณค่า สิ่งที่มีและใช้อย่างเข้าใจ ไม่เพิ่มประชากรมากเกิน ทรัพยากรมี่ก่อผลกระทบ และ ไม่เพิ่มประชากรที่ไร้คุณภาพต่อสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ
มนุษย์พันธ์ สิ้นเปลือง สร้างco2ได้มากมายจาก กิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่การกิน การแต่งกาย ของที่ใช้ เครื่องอุปโภค บริโภค ถ้ามาแตกกิจกรรมในการผลิตในสินค้าแต่ละตัว ต่อคน มีการเพิ่มco2ได้มากเท่าไร ก่อขยะ มลพิษเท่าไร ถ้าจำนวนคนที่ใช้สินค้านั้นเพิ่มมากเท่าไร ความต้องการมากเท่าไร ก็คูณจำนวนคนเข้าไป
เช่นกระดาษทิชชู่ คนบนโลกใช้เฉลี่ยต่อคนวันละ3แผ่น(สมมติ) คูณ7,000ล้านคน ก่อมลพิษ ประมาณ10ล้านตันต่อวัน(สมมติคร่าวๆ) ถ้าเราสามารถลดจำนวนตัวคูณในทุกกิจกรรมลง 50% โลกจะปลอดจากมลพิษกี่% คือต้องการให้คิดตามว่าจำนวนตัวคูณ(ปริมาณประชากร)มีผลต่อความเปลี่ยนแปลง และนั่นคือปัญหาที่แท้จริง คือจำนวนประชากร
เพิ่มจนเข่นฆ่ากันตายเราไม่สามารถเเก้ใขใด้หรอกเพราะเรายังคงต้อง
ความสบาย,,อำนาจ,,การทำมาหากิน
คมนาคม..ท่องเที่ยว..รุกป่าใม้ธรรมชาติ
หากมนุษย์ใด้สุนพันธ์ทุกอย่างก้อกลัมมาสวยงาม
ถ้าเราไม่ทำอะไรเลย แล้วโลกจะวิกฤติอย่างเห็นได้ชัดใน 20-30 ปีข้างหน้า เราคิดว่าแก้ไม่ทันแล้ว เพราะหายนะทางธรรมชาติที่กำลังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเหมือนโดมิโนกำลังล้ม ลองมองดูสิ แต่ละเหตุการณ์ไม่สามารถทำให้ฟื้นคืนได้ภายใน 10-20 ปี
KHUN KEN ,AS ALWAYS OUTSTAND ,THANK YOU.
YOU CAN DO OUR COUNTRY AND OUR WORLD THE BIG FAVOR BY GETTING THE NEW GENERATION TO UNDERSTAND AND START TO PRACTICE, FROM THE YOUNG AGE.
อยู่แคลิฟอร์เนียค่ะ ซื้อรถ Tesla Model 3 เมื่อวันแม่ที่ผ่านมา ได้รับส่วนลด $1,500 เพราะภาครัฐสนับสนุนนโยบายรักษ์โลก
ทำไก่อบฟางในกทมอยุ่
ไทยทำอะไรอยู่????
ตอบ,,,,กำลังคิดว่าจะสั่ง ชิโนแซค,,อย่างไรดีไม่ให้ไอ่พวกชาวบ้านมันด่าเอา,,ฮาาาาาาาาาาาาา
แก้ยากมากๆในระบบทุนนิยม ถ้าอยากลดโลกร้อน ก็ต้องลดกำลังการผลิตในระบบอุตสาหกรรมลง ซึ่งมันขัดแย้งระหว่างสิ่งแวดล้อมกับผลประโยชน์ ในความจริงใครจะยอม
ผมทำงานวิชาการทั้งวิทยานิพนธ์ และบทความวิชาการเกี่ยวกับกฎหมายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หลายฉบับ ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มา ๒๗ ปี ครับ ทุกวันนี้ประเทศไทยไม่เคยมีกฎหมายเฉพาะเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเลย คิดดูว่า ๒๗ ผ่านไป น่ะครับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำอะไรกันอยู่
มากสุดมนุษย์ก็แค่ตายทั้งโลกเหมือนไดโนเสาร์ สิ่งที่ดำรงค์อยู่ต่อไปก็คือโลกและระบบจักรวาล ไม่ต้องคิดมาก เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดา วัฏจักรชีวิตมันคือแบบนี้เราเปลี่ยนอะไรไม่ได้
ขอบคุณที่มาพูดเรื่องนี้นะคะ ได้ติดตามเรื่องนี้สักพักแล้วมันสำคัญมากๆค่ะ